หัวข้อ
- #การแบ่งแยกบุคคล
- #หุ้นตก
- #การจดทะเบียนซ้ำ
- #Pharma Research
- #การแบ่งแยกวัตถุ
สร้าง: 2025-07-08
สร้าง: 2025-07-08 15:02
สวัสดีครับ/ค่ะ นักบัญชีและผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีอากรทุกท่าน! ในตลาดหุ้นที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ประเด็นการแบ่งบริษัทเป็นเรื่องสำคัญเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีการแบ่งบริษัท Pharmeris Research เมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับความสนใจจากหลายๆ ท่าน ทำไมราคาหุ้นถึงตกลงอย่างรวดเร็วและมูลค่าตามราคาตลาด 1 ล้านล้านวอนหายไปอย่างน่าตกใจเมื่อมีการประกาศการแบ่งบริษัท วันนี้เราจะมาวิเคราะห์ความหมายและความแตกต่างระหว่างการแบ่งบริษัทแบบบุคคลและการแบ่งบริษัทแบบทรัพย์สินอย่างละเอียดผ่านกรณีของ Pharmeris Research พร้อมทั้งให้ข้อมูลสำคัญที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงานจริง
สารบัญ
การแบ่งบริษัท Pharmeris Research แบบบุคคล มีปัญหาอะไรบ้าง?
การแบ่งบริษัทแบบบุคคล vs. การแบ่งบริษัทแบบทรัพย์สิน: ความหมายและความแตกต่างที่สำคัญ
ความเสี่ยงของ 'การจดทะเบียนซ้ำ' และ 'ส่วนลดราคาหุ้น' จากกรณีของ Pharmeris Research
ความสัมพันธ์ระหว่างการสืบทอดของผู้ถือหุ้นใหญ่และการแบ่งบริษัท: การระบุเจตนาที่ซ่อนอยู่
Q&A: คำถามและคำตอบที่ผู้ปฏิบัติงานจริงควรรู้
1. การแบ่งบริษัท Pharmeris Research แบบบุคคล มีปัญหาอะไรบ้าง?
ถาม: ทำไมการประกาศการแบ่งบริษัท Pharmeris Research แบบบุคคลถึงทำให้ราคาหุ้นตกลงอย่างรวดเร็ว?
ตอบ: เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568 Pharmeris Research ได้ประกาศว่าจะแยกธุรกิจความงามหลัก (เช่น Rizlan Ding) ออกเป็นบริษัทใหม่ 'Pharmeris Research' และเปลี่ยนบริษัทเดิมเป็นบริษัทโฮลดิ้งด้านการลงทุน 'Pharmeris Research Holdings (ชื่อชั่วคราว)' ถึงตรงนี้อาจดูเหมือนการแบ่งบริษัทแบบบุคคลทั่วไป แต่ปัญหาอยู่ที่แผนการในภายหลัง นั่นคือ Pharmeris Research Holdings จะใช้ 'การเพิ่มทุนโดยการนำเงินสดเข้าแลกหุ้น' เพื่อควบคุม Pharmeris Research ที่จัดตั้งขึ้นใหม่
ถึงแม้ภายนอกจะดูเหมือนเป็นการแบ่งบริษัทแบบบุคคล แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับมีผลเหมือนกับการแบ่งบริษัทแบบทรัพย์สินและก่อให้เกิดปัญหา 'การจดทะเบียนซ้ำ' ที่ร้ายแรง ราคาหุ้นของบริษัทเดิม (Pharmeris Research Holdings) ที่แยกธุรกิจหลักออกไป ย่อมถูกลดราคาลงอย่างแน่นอน ในความเป็นจริง ราคาหุ้นร่วงลงอย่างรวดเร็วหลังจากการประกาศ ทำให้มูลค่าตามราคาตลาดหายไปมากกว่า 1 ล้านล้านวอน ซึ่งส่งผลให้ผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งก็คือผู้ถือหุ้นรายย่อย ต้องสูญเสียอย่างมหาศาล
2. การแบ่งบริษัทแบบบุคคล vs. การแบ่งบริษัทแบบทรัพย์สิน: ความหมายและความแตกต่างที่สำคัญ
ในการแบ่งบริษัท จะมีการแบ่งบริษัทออกเป็น 2 แบบหลักๆ คือ การแบ่งบริษัทแบบบุคคลและการแบ่งบริษัทแบบทรัพย์สิน เนื่องจากผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเข้าใจความหมายและความแตกต่างของทั้งสองแบบอย่างถูกต้อง
การแบ่งประเภท:
การแบ่งบริษัทแบบบุคคล:
ความหมาย: เป็นวิธีการแบ่งบริษัท A เดิมออกเป็น A' และ B' โดยที่ผู้ถือหุ้นเดิมจะได้รับหุ้นของทั้งสองบริษัทตามสัดส่วนการถือครอง
ผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น: ผู้ถือหุ้นจะได้รับหุ้นของทั้งสองบริษัทที่ถูกแบ่งแยกออกมา ซึ่งตามทฤษฎีแล้ว พวกเขาจะสามารถได้รับมูลค่าของบริษัทอย่างเต็มที่โดยไม่มีราคาหุ้นตกลง
การนำไปใช้กับ Pharmeris Research: แม้ภายนอกจะดูเหมือนเป็นการแบ่งบริษัทแบบบุคคล แต่กลับพยายามสร้างโครงสร้างการควบคุมบริษัทแม่และบริษัทลูกที่คล้ายคลึงกับการแบ่งบริษัทแบบทรัพย์สินผ่านการนำเงินสดเข้าแลกหุ้น
การแบ่งบริษัทแบบทรัพย์สิน:
ความหมาย: บริษัท A เดิมจะแยกส่วนธุรกิจบางส่วนออกไปจัดตั้งบริษัทลูก B และบริษัท A จะเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท B 100%
ผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น: ผู้ถือหุ้นยังคงถือหุ้นของบริษัท A เท่านั้นและไม่ได้รับหุ้นของบริษัท B โดยตรง เมื่อบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ราคาหุ้นของบริษัทแม่มีแนวโน้มที่จะถูกลดราคาลง
การนำไปใช้กับ Pharmeris Research: ในกรณีของ Pharmeris Research ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ในความเป็นจริงแล้ว พยายามที่จะได้รับผลของการจดทะเบียนซ้ำที่คล้ายกับการแบ่งบริษัทแบบทรัพย์สินผ่านการนำเงินสดเข้าแลกหุ้นหลังจากการแบ่งบริษัทแบบบุคคล
เคล็ดลับสำหรับผู้ปฏิบัติงานจริง: เมื่อได้รับข่าวสารเกี่ยวกับการแบ่งบริษัทในประกาศ ให้ดูไม่เพียงแค่ว่าเป็นการ 'แบ่งบริษัทแบบบุคคล' หรือ 'แบ่งบริษัทแบบทรัพย์สิน' เท่านั้น แต่ให้พิจารณาการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการควบคุมหลังจากแบ่งบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทแม่และบริษัทลูกอย่างละเอียด
3. ความเสี่ยงของ 'การจดทะเบียนซ้ำ' และ 'ส่วนลดราคาหุ้น' จากกรณีของ Pharmeris Research
ถาม: ทำไมการแบ่งบริษัทของ Pharmeris Research ถึงนำไปสู่ปัญหา 'การจดทะเบียนซ้ำ' และทำให้เกิด 'ส่วนลดราคาหุ้น'?
ตอบ: ดังที่ได้อธิบายไปแล้ว Pharmeris Research พยายามสร้างโครงสร้างที่บริษัทเดิมควบคุมบริษัทใหม่ผ่านการนำเงินสดเข้าแลกหุ้นหลังจากการแบ่งบริษัทแบบบุคคล ซึ่งมีแนวโน้มสูงมากที่จะนำไปสู่ 'การจดทะเบียนซ้ำ' ซึ่งบริษัทลูกที่แยกธุรกิจหลักออกไปจะกลับมาเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีกครั้ง
เหตุผลที่การจดทะเบียนซ้ำกลายเป็นปัญหา มีดังนี้:
การลดทอนมูลค่า: หากบริษัทหนึ่งถูกแบ่งออกเป็นสองบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ นักลงทุนจะต้องประเมินมูลค่าของบริษัทเดียวกันสองครั้ง ซึ่งอาจทำให้มูลค่าที่แท้จริงลดลง
ส่วนลดราคาหุ้นของบริษัทแม่: โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากบริษัทลูกที่แยกธุรกิจหลักออกไปเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทแม่ (ในกรณีนี้คือ Pharmeris Research Holdings) จะสูญเสียธุรกิจ 'เพชรเม็ดงาม' ไป ซึ่งจะทำให้มูลค่าของบริษัทถูกประเมินต่ำลงและทำให้เกิดปรากฏการณ์ส่วนลดราคาหุ้นที่รุนแรงขึ้น ซึ่งส่งผลให้ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทแม่ต้องสูญเสียโดยตรง
ท้ายที่สุดแล้ว กรณีของ Pharmeris Research เป็นสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า กำลังนำไปสู่ผลกระทบของการจดทะเบียนซ้ำที่คล้ายกับการแบ่งบริษัทแบบทรัพย์สินภายใต้การปกปิดของการแบ่งบริษัทแบบบุคคล เพื่อดึงดูดส่วนลดราคาหุ้นของบริษัทแม่
4. ความสัมพันธ์ระหว่างการสืบทอดของผู้ถือหุ้นใหญ่และการแบ่งบริษัท: การระบุเจตนาที่ซ่อนอยู่
ถาม: การแบ่งบริษัทเกี่ยวข้องอะไรกับการสืบทอดของผู้ถือหุ้นใหญ่?
ตอบ: มีข้อกังวลว่า การแบ่งบริษัทในลักษณะนี้มักถูกนำมาใช้ในกระบวนการสืบทอดของผู้ถือหุ้นใหญ่ เนื่องจากอาจถูกนำมาใช้เป็นวิธีการที่ผิดกฎหมายในการลดหย่อนภาษีมรดกหรือภาษีการให้ โดยการบริจาคหุ้นของบริษัทเดิมที่มีราคาลดลงให้กับบุตรหลาน
การลดหย่อนภาษีมรดก/ภาษีการให้: เมื่อราคาหุ้นของบริษัทแม่ลดลงเนื่องจากการแบ่งบริษัท มูลค่าของหุ้นบริษัทแม่ที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ถือครองก็จะลดลงด้วย ในช่วงเวลานี้ หากบริจาคหุ้นให้กับบุตรหลาน ภาษีจะถูกคำนวณโดยอิงจากมูลค่าที่ต่ำลง ทำให้ลดภาระภาษีมรดกหรือภาษีการให้โดยรวม
การเสริมสร้างอำนาจควบคุม: ในขณะเดียวกัน สามารถรักษาอำนาจควบคุมธุรกิจหลักผ่านบริษัทลูกได้ ซึ่งทำให้ได้รับผลของการสืบทอดสิทธิในการควบคุมบริษัททั้งหมดในราคาที่ถูกลงอย่างแท้จริง
แผนการแบ่งบริษัทของ Pharmeris Research ในครั้งนี้ยังถูกสงสัยว่าไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการสืบทอดของผู้ถือหุ้นใหญ่ นักบัญชี/ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีอากรในฐานะผู้ปฏิบัติงานจริง การทำความเข้าใจวัตถุประสงค์ของการแบ่งบริษัทและเจตนาที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
5. Q&A: คำถามและคำตอบที่ผู้ปฏิบัติงานจริงควรรู้
ถาม: รัฐบาลหรือตลาดมีท่าทีอย่างไรต่อการจดทะเบียนในลักษณะ 'แบ่งบริษัท' เช่น กรณี Pharmeris Research ในครั้งนี้?
ตอบ: 'การจดทะเบียนแบบแบ่งบริษัท' เช่นนี้ ถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของ 'Korea Discount' และรัฐบาลกำลังดำเนินการเพื่อปรับปรุงแก้ไข โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตั้งแต่สมัยที่นาย Lee Jae-myung เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ก็ได้เน้นย้ำถึงทัศนคติเชิงวิพากษ์ต่อการแบ่งบริษัทในรูปแบบนี้ มีข้อสงสัยว่าเป็นการ 'ขึ้นรถไฟขบวนสุดท้าย' ก่อนการแก้ไขกฎหมายพาณิชย์ พร้อมกับความเสี่ยงทางกฎหมายที่เกิดขึ้น Pharmeris Research จะจัดงาน IR ออนไลน์ในเวลา 10:00 น. ของวันที่ 9 กรกฎาคม เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับการแบ่งบริษัทแบบบุคคลในครั้งนี้ ท่านสามารถอ้างอิงข้อมูลดังกล่าวได้
กรณีการแบ่งบริษัท Pharmeris Research เป็นกรณีศึกษาที่สำคัญ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่ซับซ้อนของการแบ่งบริษัทที่มีต่อมูลค่าของผู้ถือหุ้นและการสืบทอดของผู้ถือหุ้นใหญ่ นอกเหนือจากความหมายและความแตกต่างของการแบ่งบริษัทแบบบุคคลและการแบ่งบริษัทแบบทรัพย์สิน สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่า สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่ชื่อเรียกของวิธีการแบ่งบริษัท แต่เป็นโครงสร้างการควบคุมที่แท้จริงและผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นหลังจากการแบ่งบริษัท
นักบัญชีและผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีอากรทุกท่าน โปรดใส่ใจในประเด็นต่อไปนี้:
วิเคราะห์รายละเอียดในประกาศ: เมื่อมีการประกาศที่เกี่ยวข้องกับการแบ่งบริษัท ให้พิจารณาไม่เพียงแค่วิธีการแบ่งบริษัทเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโครงสร้างการควบคุมหลังจากการแบ่งบริษัท (โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทแม่และบริษัทลูก) และแผนการนำเงินสดเข้าแลกหุ้นอย่างรอบคอบ
ประเมินความเป็นไปได้ของ 'การจดทะเบียนซ้ำ': เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องคาดการณ์ความเป็นไปได้ของการจดทะเบียนใหม่ของบริษัทใหม่ และความเสี่ยงของส่วนลดราคาหุ้นของบริษัทเดิมที่เกิดจากการจดทะเบียนใหม่นั้น
พยายามทำความเข้าใจเจตนาของผู้ถือหุ้นใหญ่: นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ในการแบ่งบริษัทที่เปิดเผยแล้ว ให้คำนึงถึงความเป็นไปได้ของเจตนาที่ซ่อนอยู่ เช่น การสืบทอดของผู้ถือหุ้นใหญ่ และโปรดติดตามการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายและข้อบังคับด้านภาษีที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง
กรณีของ Pharmeris Research ในครั้งนี้เตือนใจเราอีกครั้งว่า เราทุกคนต้องติดตามและให้ความสนใจอย่างต่อเนื่องว่า การตัดสินใจของบริษัทนั้นโปร่งใสและยุติธรรมหรือไม่ ไม่ทำให้มูลค่าของผู้ถือหุ้นเสียหายหรือไม่ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานจริง
ความคิดเห็น0